น้ำตกเอราวัณ ถือเป็นอัญมณีเม็ดงามแห่งผืนป่าตะวันตกในจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยความงดงามของสายน้ำสีเขียวมรกตที่ไหลลดหลั่นลงมาตามชั้นหินปูนถึง 7 ชั้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่เสน่ห์ของน้ำตกเอราวัณ ไม่ได้มีเพียงความสวยงามตามธรรมชาติเท่านั้น ยังมีเรื่องราวน่าสนุกให้เราได้ค้นหา นั่นคือการ “ตามล่าลายเซ็นฉลาม” การเดินทางมาเยือนน้ำตกเอราวัณจึงเป็นการผสมผสานระหว่างการพักผ่อนหย่อนใจ ชื่นชมธรรมชาติ และการผจญภัยเล็ก ๆ ที่น่าตื่นเต้น
สำหรับผู้ที่วางแผนมาเที่ยวชมความงามของน้ำตกเอราวัณและมองหาที่พักในกาญจนบุรีที่มอบประสบการณ์การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง ริเวอร์แคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่พักที่น่าสนใจ ด้วยทำเลริมแม่น้ำแควน้อยที่เงียบสงบและออกแบบอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ แม้จะอยู่ห่างจากตัวน้ำตกเอราวัณออกมาสักหน่อย แต่ก็เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนริมน้ำและเดินทางไปสัมผัสความงามของสายน้ำ
รู้จักกับน้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกหินปูนที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ลักษณะเด่นคือสีของน้ำที่เป็นสีฟ้าใสอมเขียวมรกตสวยงาม เกิดจากการที่น้ำมีสารละลายของแคลเซียมคาร์บอเนตจากหินปูน เมื่อสะท้อนกับแสงแดดจึงเห็นเป็นสีสันงดงามจับตา ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่ารอบ ๆ และความสะดวกในการเดินทาง ทำให้น้ำตกเอราวัณ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอย่างสูงตลอดทั้งปี
น้ำตกเอราวัณมีกี่ชั้น

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของน้ำตกเอราวัณ คือการเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีชั้นน้ำตกถึง 7 ชั้น ไหลลดหลั่นกันลงมาตามเชิงเขา รวมระยะทางจากชั้นล่างสุดถึงชั้นบนสุดประมาณ 1,500 เมตร แต่ละชั้นมีความสวยงามและบรรยากาศที่แตกต่างกันไป ที่สำคัญมีชื่อ ที่คล้องจองกัน ไหลคืนรัง วังมัจฉา ผาน้ำตก อกผีเสื้อ เบื่อไม่ลง ดงพฤกษา ภูผาเอราวัณ
- ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง เป็นชั้นที่เข้าถึงง่ายที่สุด มีแอ่งน้ำขนาดเล็กให้พอได้สัมผัสน้ำเย็นๆ ของน้ำตก
- ชั้นที่ 2 วังมัจฉา มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่และลึกพอสมควร เป็นจุดยอดนิยมในการเล่นน้ำ มีฝูงปลาพลวงแหวกว่ายให้เห็น เป็นจุดสุดท้ายที่อนุญาตให้นำอาหารเข้ามาในเขตน้ำตก
- ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก มีสายน้ำตกที่สูงขึ้นและแอ่งน้ำกว้าง เหมาะแก่การพักผ่อนและถ่ายรูป
- ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ มีหินสองก้อนที่น้ำไหลผ่านคล้ายลักษณะหน้าอก เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกแห่งของน้ำตก
- ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง ชื่อชั้นบ่งบอกถึงความสวยงามที่ทำให้ไม่อยากเดินลง มีหลายแอ่งให้เลือกเล่นน้ำ
- ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา อยู่ท่ามกลางป่าไม้ที่ร่มรื่น ให้ความรู้สึกสงบ เป็นส่วนตัว
- ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ ชั้นบนสุดของน้ำตกมีลักษณะสายน้ำที่ไหลบ่าตามหน้าผาหิน มองดูคล้ายเศียรช้างเอราวัณสามเศียร อันเป็นที่มาของชื่อน้ำตกเอราวัณ การเดินทางขึ้นมาถึงชั้นนี้ต้องใช้กำลังและความพยายามพอสมควร แต่คุ้มค่ากับวิวที่ได้เห็น
กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวน้ำตกเอราวัณ
การมาน้ำตกเอราวัณ ไม่ใช่แค่การเดินชมความงามเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้เราได้เพลิดเพลินและสร้างความทรงจำที่ดีตลอดการเดินทาง เรายังได้สัมผัสสายน้ำเย็นฉ่ำ
เล่นน้ำตก
กิจกรรมหลักที่ขาดไม่ได้เมื่อมาถึงน้ำตกเอราวัณ คือการลงเล่นน้ำในแอ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่เกือบทุกชั้น สายน้ำสีเขียวมรกตที่เย็นสดชื่นช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในชั้นที่ 1-4 ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายและมีพื้นที่กว้างขวาง การได้แช่ตัวท่ามกลางธรรมชาติ ปล่อยให้ฝูงปลาพลวงมาตอดเบา ๆ ถือเป็นสปาธรรมชาติชั้นยอด เป็นประสบการณ์ที่ทำให้การมาน้ำตก ควรเล่นน้ำด้วยความระมัดระวังและอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย
ถ่ายรูป
ด้วยความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำตกเอราวัณ ทำให้ทุกมุมกลายเป็นพื้นที่ถ่ายภาพชั้นดี เราสามารถเก็บภาพความประทับใจได้ตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ภาพสายน้ำสีเขียวมรกตที่ไหลผ่านชั้นหิน ภาพความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ไปจนถึงภาพแอ่งน้ำสวยๆ ในแต่ละชั้น การเล่นกับแสงและเงาที่ตกกระทบผิวน้ำก็สร้างสรรค์ภาพถ่ายที่น่าสนใจได้ อย่าลืมบันทึกภาพความทรงจำของการมาพิชิตแต่ละชั้นของน้ำตกเอราวัณ เก็บไว้เป็นที่ระลึก
ปิกนิก
การนำอาหารมารับประทานท่ามกลางธรรมชาติเป็นอีกหนึ่งความสุขของการมาเที่ยว แต่สำหรับน้ำตกเอราวัณ มีกฎระเบียบเพื่อรักษาความสะอาดและสภาพแวดล้อม โดยอนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปได้ถึงบริเวณน้ำตกชั้นที่ 2 (วังมัจฉา) เท่านั้น หากต้องการนำเครื่องดื่มบรรจุขวดหรือกระป๋องเข้าไป อาจต้องมีการวางเงินมัดจำขยะ ณ จุดตรวจ เพื่อให้มั่นใจว่าจะนำกลับออกมาทิ้งด้านนอก ดังนั้น การวางแผนปิกนิกควรทำในบริเวณที่กำหนดไว้ ซึ่งมักอยู่ใกล้ ๆ ชั้นล่าง
ลายเซ็นฉลามที่น้ำตกเอราวัณคืออะไร
“ลายเซ็นฉลาม” ที่น้ำตกเอราวัณ คือ ลายเซ็นสุดไวรัลของ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือ “โฟน” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ซึ่งออกแบบลายเซ็นให้เป็นรูปหัวฉลาม สัตว์ที่ชื่นชอบ สื่อถึงตัวตนและความผูกพันกับทะเล กลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นในพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างแวะมาขอลายเซ็นนี้ไว้เป็นที่ระลึกหลังประทับตราหน้าอุทยานฯ
ค่าเข้าน้ำตกเอราวัณ
- ชาวไทย
- ผู้ใหญ่ 60 บาท
- เด็ก (อายุ 3-14 ปี) 30 บาท
- ชาวต่างชาติ
- ผู้ใหญ่ 300 บาท
- เด็ก 150 บาท
- ค่ายานพาหนะ
- รถจักรยานยนต์ 20 บาท
- รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
- รถบัส 200 บาท
รายละเอียดการเปิด-ปิด

- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวันเวลา 07.00 – 16.30 นาฬิกา
- ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
- โทรศัพท์ : 034 574 288 034 574 222 หรือ034 574 234
สรุป
น้ำตกเอราวัณเป็นมากกว่าน้ำตกสวยงาม แต่มีความตระการตาของสายน้ำ 7 ชั้นสีเขียวมรกต ความร่มรื่นของผืนป่า กิจกรรมสนุก ๆ อย่างการเล่นน้ำ ถ่ายรูป และการเดินทางสำรวจเส้นทางธรรมชาติ นอกจากนี้ การได้ลองสังเกตและค้นหา “ลายเซ็นฉลาม” ยังช่วยเพิ่มสีสันให้กับการเดินทางมาน้ำตกเอราวัณอีกด้วย ด้วยความสะดวกในการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทำให้น้ำตกเอราวัณยังคงยืนหนึ่งในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของกาญจนบุรี ที่พร้อมมอบความสุขและความประทับใจให้กับทุกคนที่มาเยือนเสมอ

วางแผนเที่ยวน้ำตกเอราวัณแล้ว อย่าลืมเติมเต็มประสบการณ์ด้วยที่พักที่ให้คุณสัมผัสธรรมชาติแบบไม่ต้องเร่งรีบ
พักผ่อนที่ River Kwai Resotel ริมน้ำแควน้อย เงียบสงบ พร้อมบริการครบครัน